ระบบเบรก ABS นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ในวงการมอเตอร์ไซค์ โดยระบบ ABS นั้นย่อมาจาก Anti Lock Brake System หรือระบบป้องกันล้อล็อกตาย ซึ่งจะพบมากในมอเตอร์ไซค์รุ่นใหม่
ทำความเข้าใจระบบเบรก Cornering ABS เบื้องต้น
Video แสดงนวัตกรรม Cornering ABS จาก KTM
โดยระบบเบรก ABS นั้นถูกดันให้เป็นระบบความปลอดภัยมาตรฐานสำคัญของมาตรฐาน EURO4 ซึ่งเราอาจจะเข้าใจว่ามันคือมาตรฐานเกี่ยวกับการปล่อยมลพิษเท่านั้น แต่ในทางกลับกันรถมอเตอร์ไซค์ทุกคันที่ต้องการผ่านมาตรฐานนี้จะต้องติดตั้งระบบเบรกนี้เข้ามาด้วย ถึงแม้ว่าเกณฑ์การปล่อยไอเสียนั้นจะผ่านมาตรฐานแต่หากไม่ติดตั้งระบบเบรก ABD มาด้วยรถคันนั้นก็จะไม่ได้ EURO4 ไปด้วยนั่นเอง
โดยระบบ ABS นั้นจะทำหน้าที่ในการป้องกันการจับตัวของปั้มเบรกและดิสก์เบรก โดยจะมีเซนเซอร์วัดแรงบีบจากก้านเบรกหน้า หรือแป้นเบรกหลัง โดยจะทำการจับแรงบีบที่มีตามค่ากำหนดแล้วแต่รถแต่ล่ะคันจะเซ็ทค่ามาจากโรงงาน โดยหากตรวจพบแรงบีบจำนวนที่เกินกว่าค่าที่กำหนดไว้ตัวเซนเซอร์จะทำการคลายปั้มเบรก และกดปั้มเบรกใหม่ในอีกจังหวะต่อมา เพื่อป้องกันการล็อกของล้อและลดแรงเสียดทานที่เกิดขึ้นกับหน้ายางและพื้นผิวของถนน ซึ่งจะทำให้ไม่เกิดอาการท้ายยกในเวลาที่เราทำการเบรกหน้าหนักๆ นั่นเอง
สำหรับระบบ Cornering ABS นั้นก็มีหลักการทำงานที่แตกต่างออกไป โดยจะสามารถอธิบายให้เข้าใจอย่างง่ายได้ว่า เจ้าระบบนี้ต้องอาศัยการตรวจจับค่าความเฉื่อยจากแกน IMU (Internal Measurement Unit ) จากการเอียงของตัวรถและคำนวณแรงบีบของตัวปั้มเบรกแบบอัตโนมัติ ซึ่งจะช่วยให้การเบรกในโค้งนั้นมีความปลอดภัยมากขึ้น ซึ่งเราเห็นได้จากในวิดีโอแล้วว่าหากไม่มีระบบ ABS ติดตั้งมาให้นั้นจะเกิดอาการล็อกของรถ แต่ในทางกลับกันกี่ติดตั้งระบบ ABS จะช่วยป้องกันการล็อกตายของล้อได้เป็นอย่างดี ซึ่งเราจะเห็นได้ชัดอีกว่าเมื่อมีระบบ Cornering ABS เข้ามาช่วยนั้นการเอียงของตัวรถจะสามารถทำได้ดีกว่าและระยะในการเบรกในโค้งนั้นจะสามารถควบคุมระยะได้ดีกว่า
ค่ายแรกที่พัฒนาแบะติดตั้งระบบเบรก Cornering ABS นั้นก็คือ KTM โดยได้ร่วมกันพัฒนากับ Bosch บริษัทผู้พัฒนาระบบเบรก ABS เพื่อใช้ในรถมอเตอร์ไซค์โดยเฉพาะ ซึ่งระบบความปลอดภัยนี้เริ่มเป็นที่แพร่หลายในรถมอเตอร์ไซค์ในปัจจุบันแล้ว
ขอบคุณข้อมูลและรูปภาพจาก www.asphaltandrubber.com