จักรยานยนต์รุ่นใหม่ๆ ในปัจจุบันหันมาใช้เครื่องยนต์แบบ 4 จังหวะมากขึ้น เนื่องจากสมรรถนะโดยรวมที่ดีกว่าแบบ 2 จังหวะ อีกทั้งยังประหยัดเชื้อเพลิง และปล่อยมลพิษน้อยกว่า บริษัทผู้ผลิตจักรยานยนต์จึงนิยมนำมาใช้ในอุตสาหกรรมจักรยานยนต์เชิงพาณิชย์มากขึ้นตามไปด้วย และสิ่งสำคัญ ที่เราควรรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับการดูแลรักษาเครื่องยนต์ 4 จังหวะ อันดับแรกก็คือ “น้ำมันหล่อลื่น”
ชนิดน้ำมันหล่อลื่นของจักรยานยนต์
น้ำมันหล่อลื่นสำหรับจักรยานยนต์นั้นที่จริงแล้ว ใช้มาตรฐานเดียวหรือใกล้เคียงกับรถยนต์นั่นเอง แตกต่างกันที่เกรด และขนิดของพื้นฐานน้ำมันที่ใช้ผลิต เช่น SAE (Society Of Automotive Engineers) หรือสมาคมวิศวกรรมยานยนต์แห่งสหรัฐอเมริกา ได้วางมาตรฐานโดยแบ่งตามค่าความข้นใส SAE 5W-40 คือ มาตรฐานอเมริกา ที่อุณหภูมิต่ำประมาณ -25 องศา ความหนืดอยู่ที่ 5 (W/ บ่งบอกว่าฤดูหนาว) ส่วนเมื่ออุณหภูมิสูงๆ ไม่เกิน 100 องศา ค่าความหนืดอยู่ที่ 40
สำหรับน้ำมันหล่อลื่นจักรยานยนต์นั้นมีหลายชนิดให้เลือก ขึ้นอยู่กับประเภท แบบ หรือรุ่นของเครื่องยนต์รวมทั้งลักษณะการใช้งานในภูมิประเทศนั้นๆ เป็นหลักครับ
สำหรับน้ำมันหล่อลื่นจักรยานยนต์นั้นมีหลายชนิดให้เลือก ขึ้นอยู่กับประเภท แบบ หรือรุ่นของเครื่องยนต์รวมทั้งลักษณะการใช้งานในภูมิประเทศนั้นๆ เป็นหลักครับ
ชนิดของน้ำมัน
1.น้ำมันเครื่องเกรดมาตรฐานทั่วไป
เหมาะสำหรับรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะทั่วไปที่เน้นใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ใช้ความเร็วสูงต่อเนื่องเป็นเวลานานๆ หรือใช้ความเร็วสูงๆ บางครั้ง และราคาค่อนข้างถูกกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆ
2. น้ำมันเครื่องแบบกึ่งสังเคราะห์ (Semi-Synthetic)
เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสมรรถนะเพิ่มมากขึ้น แต่ยังเน้นความประหยัดด้านราคา ซึ่งคุณภาพจะดีกว่าในชนิดธรรมดา และยืดอายุการเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่องได้มากกว่า
3.น้ำมันเครื่องแบบสังเคราะห์ หรือ (Fully Synthetic)
เหมาะสำหรับรถสมรรถนะสูง หรือผู้ต้องการความทนทาน และการปกป้องชิ้นส่วนที่ดีขึ้น หรือใช้ความเร็วสูง รอบจัดๆ เป็นเวลานานๆ อย่างเช่น วิ่งทางไกลบ่อยๆ เพื่อการหล่อลื่นและลดการสึกหรอได้ดีขึ้นพร้อมยืดอายุการถ่ายน้ำมันเครื่องได้นานกว่าทั้ง 2 ชนิดข้างต้น
4. น้ำมันเครื่องชนิดเกรดเดียว (Monograde)
เหมาะสำหรับรถจักรยานยนต์ทุกชนิด ที่เน้นประหยัด ใช้งานไม่หนักมาก แต่ระยะการเปลี่ยนถ่ายก็สั้นลงตามไปด้วย คุณภาพจะด้อยกว่าทั้ง 3 ชนิดข้างต้น แม้จะด้อยกว่า แต่ก็ช่วยลดการสึกหรอได้เช่นกัน ใช้ได้ดีกับรุ่นหรือรถที่ผ่านการใช้งานมานานๆ แล้ว
สำหรับระยะทางที่ควรเปลี่ยนแต่ละครั้งนั้น ดูตามที่ระบุเอาไว้ในคู่มือครับ ซึ่งโดยปกติจะอยู่ที่ ทุกๆ 2,000 – 3,000 กิโลเมตร หรือทุก 2-4 เดิอน แล้วแต่อย่างใดถึงก่อน รวมทั้งตามชนิดของน้ำมันด้วย ยิ่งชนิดสังเคราะห์แท้ อายุจะนานออกไปกว่าแบบอื่นประมาณ 2,000-3,000 กิโลเมตร (บวกลบ) ครับ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก checkraka