แน่นอนหละครับว่าในส่วนของรถยนต์นั้นดีตรงสะดวกสบาย คุ้มแดดคุ้มฝน ตอนอากาศร้อนก็มีแอร์เย็นสบาย ตอนฝนตกก็ไม่เปียก และยังขนคนขนของได้คราวละมากๆ ระบบเครื่องเสียงที่ดีแหกปากร้องคลอโดยไม่ต้องสนใจใคร ให้ความเป็นส่วนตัวที่สุดยอด แต่เรามาดูจุดเด่นของมอเตอร์ไซค์นะครับว่าหากต้องการใช้ในการเดินทางที่ต้องการสัมผัสกับธรรมชาติแล้วรถยนต์นั้นสู้มอเตอร์ไซค์ไม่ได้แน่ๆ มอเตอร์ไซค์ยังให้อะไรอีกมากมายที่คุณคาดไม่ถึง นี่คือเหตุผลว่าทำไมคุณถึงควรจะซื้อมอเตอร์ไซค์แทนที่จะคิดถึงรถยนต์
10 เหตุผลที่ทำไมมอเตอร์ไซค์ดีกว่ารถยนต์
ขับไปด้วยความมันส์ระทึก
สิ่งที่โดดเด่นที่สุดในการขับขี่มอเตอร์ไซค์ไปตามท้องถนนก็คือไม่มีอะไรจะทำให้รู้สึกดีไปกว่านี้อีกแล้ว มันเป็นความท้าทายและเร้าใจอย่างยิ่งหากได้ขับมอเตอร์ไซค์ และยิ่งมีตัวแปรด้านความเสี่ยงมาเกี่ยวข้องก็ยิ่งทำให้การขับขี่นั้นยิ่งเร้าใจมากขึ้น ลองนึกถึงการยืนบนระเบียงชั้นสองกับระเบียงชั้น 20 ซิครับ แม้ทั้งสองที่จะปลอดภัยแต่ชั้น 20 จะเสียวกว่าตรงที่ใจเราจินตนาการว่าหากตกลงไปจะเป็นอย่างไร การขับมอเตอร์ไซค์ก็จะระทึกใจตรงนี้แหละครับ ยิ่งหากขับรถมอเตอร์ไซค์ที่มีซีซีเยอะเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเร้าใจมากขึ้นจากความเร็ว และความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นไปด้วย
ค่าบำรุงรักษาต่ำ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ขับมอเตอร์ไซค์จะสิ้นเปลืองน้ำมันน้อยกว่ารถยนต์ ก็ย่อมเผาไหม้น้อยกว่าทำให้อากาศเสียน้อยกว่า และยังเป็นการประหยัดการนำเข้าน้ำมัน หรือพูดสั้นๆว่าขับมอเตอร์ไซค์นั้นประหยัดค่าน้ำมันกว่ารถยนต์เยอะ ไม่ว่าคุณจะสนในเรื่องอนุรักษ์ธรรมชาติหรือไม่ก็ควรจะรู้ว่าการปลดปล่อยคาร์บอนของมอเตอร์ไซค์นั้นน้อยกว่ารถยนต์มาก อีกทั้งค่าบำรุงรักษานั้นไม่โหดเท่ารถยนต์ที่ค่าอะไหล่ ค่าบริการต่างๆ นั้นแพงกว่ามาก
ง่ายต่อการดูแล
มอเตอร์ไซค์มีแค่สองล้อส่วนรถยนต์มีสี่ล้อการเปลี่ยนยางเปลี่ยนผ้าเบรกจึงน้อยกว่า เครื่องยนต์ก็อยู่ในจุดที่เข้าถึงได้ง่ายไม่รกรุงรังเหมือนของรถยนต์ ทำให้การเปลี่ยนหัวเทียนหรือน้ำมันเครื่องนั้นเจ้าของสามารถทำได้ง่ายกว่าการดูแลรถยนต์เยอะ
หาที่จอดง่าย
รถมอเตอร์ไซค์ใช้พื้นที่แค่ประมาณ 1 ใน 3 ของพื้นที่ในการจอดเมื่อเทียบกับรถยนต์ ยิ่งไปกว่านั้น ไม่ว่าสถานที่นั้นจะคับคั่งขนาดไหน เราก็จะหาที่จอดมอเตอร์ไซค์เพื่อลงไปทำธุระได้โดยง่าย ไม่มีคำว่าจอดซ้อนคันสำหรับมอเตอร์ไซค์ พื้นที่สำหรับรถยนต์ซักสามสิบคันอาจจะจอดมอเตอร์ไซค์ได้เป็นร้อย และด้วยวงเลี้ยวของมอเตอร์ไซค์ที่แคบ ทำให้การเข้าจอดการเอารถมอเตอร์ไซค์ออกมาจากที่จอดนั้นทำได้โดยง่าย
ไปได้เร็วกว่า
มอเตอร์ไซค์ขนาดเพียง 250cc นั้นสามารถทำความเร็วได้มากกว่ารถยนต์ซิตี้คาร์ทั่วไป ในฝั่งของรถแรงก็พบว่าจะทำความเร็วได้เทียบเท่ากับ Ninja หรือ Hayabusa แต่ว่าหากไปมองเรื่องราคาแล้ว รถยนต์ที่ว่านั้นอาจจะสูงกว่า 20 ถึง 30 เท่าเลยทีเดียว มอเตอร์ไซค์สามารถวิ่งแทรกรถคันอื่นๆได้หากมีหลายเลน และมอไซค์เปลี่ยนเลนได้เร็ว แถมวิ่งถึงปลายทางได้ไวกว่า
ปลอดภัยกว่า
ในแง่ที่ว่าหากคนขับมอเตอร์ไซค์ไม่คุยโทรศัพท์หรือเล่นไลน์ระหว่างขับมอเตอร์ไซค์แล้วละก็ การขับมอเตอร์ไซค์นั้นปลอดภัยกว่าในแง่ของการหลบหลีกอุบัติเหตุ มุมมองกว้างกว่าเพราะไม่ถูกบดบังด้วยเสา A,B เหมือนในรถยนต์ การควบคุมเบรกนั้นทำได้ดีกว่าเพราะเบรกนั้นอยู่เท้าเดิมตลอด ไม่ต้องสลับระหว่างคันเร่งกับเบรกเหมือนในรถยนต์
อันนี้ไม่ขอเปรียบเทียบในกรณีที่หากเกิดอุบัติเหตุระหว่างรถยนต์กับมอเตอร์ไซค์ที่ว่า รถยนต์อาจจะมีรอยบุบเล็กน้อยแต่คนขับมอเตอร์ไซค์อาจจะต้องนอนโรงพยาบาลเพราะตัวปลิวข้ามรถยนต์ไป
แต่เป็นการเปรียบเทียบในแง่ของทัศนวิศัยในการขับขี่ที่กว้างกว่ารถยนต์มาก ทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุได้ดีกว่า
ใกล้ชิดกันมากว่า
เทียบกันดูหากขับรถยนต์กับผู้โดยสารแล้วเราใกล้ชิดกันได้แค่จับมือหรือโอบไหล่ แต่หากเป็นมอเตอร์ไซค์แล้วเราสามารถใกล้ชิดกันได้มากกว่า แค่เหยียบเบรกแรงๆตรงแยกหน้าดูซิครับว่าจะใกล้ชิดกันขนาดไหน
ความรู้สึกเป็นมิตร
เนื่องจากการขับขี่มอเตอร์ไซค์นั้นเราเห็นชัดเจนว่าใครเป็นใคร ทำให้รู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งของสังคมแวดล้อม เหมือนนักบิดทุกคนจะมีความเชื่อมโยงกัน ไม่ถูกบดบังด้วยตัวถึงหรือฟิลม์หนาเหมือนรถยนต์ จะเห็นว่านักบิดมอไซค์นั้นมีความเป็นมิตรมากว่าคนขับรถยนต์มาก
ความรู้สึกเป็นอิสระ
การขับขี่มอเตอร์ไซค์เป็นการพาคุณไปสูดบรรยากาศที่สดชื่นของป่าเขาลำเนาไพร ไม่อุดอู้เหมือนอยู่ในรถยนต์ ความรู้สึกมีอิสระสัมผัสกับธรรมชาตินั้นหาได้กับมอเตอร์ไซค์ทุกคัน ทั้งลมปะทะ ทั้งกลิ่นของต้นไม้และสิ่งแวดล้อมต่างๆ ที่หากขับรถยนต์แล้วก็ต้องเปิดหน้าต่างซึ่งก็จะได้ยินแต่เสียงลม
เหตุผลเหล่านี้เป็นเพียงส่วนน้อยเท่านั้น ยังมีอีกหลายเหตุผลว่าทำไมมอเตอร์ไซค์นั้นดีกว่ารถยนต์ ลองค้นหาดูกันนะครับว่าแล้วก็ถอยมอเตอร์ไซค์ออกไปค้นหากันเลยดีไหมครับ