หลายคนที่ได้ดูการแข่งขันรายการมอเตอร์ไซค์ทางเรียบชิงแชมป์โลก หรือที่เรียกกันว่า MotoGP ซึ่งดูแล้วอาจคิดว่า รถที่ใช้แข่งทำไมมันแรงได้ใจขนาดนี้ วันนี้ทีมงาน MotoWish จึงนำข้อมูลของรถแข่ง MotoGP มาบอกเพื่อนๆให้รู้จักมันมากขึ้น เพื่อเพิ่มอรรถรสในการรับชมให้มันส์ และสนุกกว่าเดิม
มารู้จักรถแข่ง MotoGP ให้มากขึ้นกันดีกว่า!!
ก่อนอื่นต้องบอกว่ารถแข่ง MotoGP ถือว่าเป็นที่สุดของรถแข่งในวงการสองล้อทางเรียบ ถ้าเปรียบเทียบให้เห็นภาพได้ชัดเจนขึ้นก็คงเหมือนรถแข่ง Formula 1 ซึ่งเป็นที่สุดของรถแข่งสี่ล้อ อย่างไรอย่างนั้น โดยมันเป็นรถต้นแบบ (Prototype โปรโตไทป์) ที่สร้างขึ้นมาเพื่อการแข่งขันเท่านั้น
รถพวกนี้ถูกสร้างและประกอบขึ้นแบบ Handmade และมีมูลค่าหลายล้านดอลล่าร์ (โดยว่ากันว่ามันมีค่าตัวไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาทเลยทีเดียว) และยังอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีที่สุดยอด เรียกว่าเป็นความพยายามของมนุษย์ที่จะต่อสู้กับเทคโนโลยีเพื่อพัฒนาให้มันเป็นรถแข่งที่ยอดเยี่ยมที่สุด
คราวนี้มารู้จักรถแข่ง MotoGP ให้มากขึ้นอีก ปัจจุบันรถแข่งที่ใช้ในการแข่ง MotoGP ต้องมีซีซีไม่เกินกว่า 1000 ซีซี และต้องเป็นเครื่องยนต์ 4 จังหวะ ลูกสูบจำกัดให้มีได้สูงสุด 4 ลูกสูบเท่านั้น และขนาดของกระบอกสูบต้องไม่เกินกว่า 81 มม.
ลูกสูบของเครื่องยนต์ต้องเป็นลูกสูบแบบปกติ ไม่สามารถใช้เป็นลูกสูบหัวแหลม หรือเป็นเครื่องยนต์แบบโรตารี่ และห้ามมีเทอร์โบ หรือซุปเปอร์ชาร์จ ในการแข่งขัน 1 ฤดูกาลนักแข่งแต่ละคนมีเครื่องยนต์ที่ใช้ในการแข่งขันได้คนละ 7 เครื่องเท่านั้น และไม่อนุญาตให้พัฒนาเครื่องยนต์ในระหว่างปีการแข่งขันอีกด้วย
น้ำมันเชื้อเพลิงใช้ได้สูงสุดไม่เกิน 22 ลิตร ในการแข่งขันแต่ละสนาม ซึ่งทีมต้องคำนวณแล้วว่าจะทำอย่างไรให้ใช้น้ำมันได้อย่างเพียงพอ และมีประสิทธิภาพต่อการแข่งขันแต่ละสนามมากที่สุด โดยแต่ละสนามจะมีระยะทางประมาณ 120 กิโลเมตร
ส่วนของจานเบรกเป็นแบบคาร์บอนโดยจะใช้ในกรณีสภาพสนามแห้งๆ ซึ่งจานเบรกคาร์บอนสามารถทนความร้อนได้ถึง 800 องศา ส่วนในสนามเปียกนิยมแบบสแตนเลสสตีล ด้านยางรถแข่งทุกคันใช้ยางยี่ห้อเดียวกันหมด (ซึ่งในปัจจุบัน มิชลินเป็นผู้สนับสนุน) ส่วนการเลือกใช้ยางประเภทใดก็ขึ้นอยู่กับทีมแข่ง, นักแข่ง,สภาพอากาศ และสนามแข่งที่ทำการแข่งขัน
รถแข่งทั้งหมดใช้ ECU กลางซึ่งเป็นเหมือนสมองที่ควบคุม และสั่งการรถ ไม่ว่าจะเป็นกาควบคุมอัตราการจ่ายน้ำมัน, ระบบแทรคชั่น คอนโทรล, ระบบป้องกันล้อหน้ายกลอย หรือแม้แต่คุณสมบัติอื่นๆเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันในการแข่งขัน และยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาอีกด้วย
รถแข่งทั้งหมดใช้ ECU กลางซึ่งเป็นเหมือนสมองที่ควบคุม และสั่งการรถ ไม่ว่าจะเป็นกาควบคุมอัตราการจ่ายน้ำมัน, ระบบแทรคชั่น คอนโทรล, ระบบป้องกันล้อหน้ายกลอย หรือแม้แต่คุณสมบัติอื่นๆเพื่อให้เกิดความเท่าเทียมกันในการแข่งขัน และยังเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาอีกด้วย
ในปัจจุบันการพัฒนารถ MotoGP ไม่เพียงแต่จะให้ประโยชน์ต่อการแข่งขัน แต่ค่ายผู้ผลิตต่างๆได้นำเทคโนโลยีเหล่านี้มาใส่ในรถโปรดักส์ชั่นที่ขายในตลาดอย่างเช่น Honda Rc213V-s หรือ ซุปเปอร์ไบค์คลาส 1000 ซีซี อย่าง Yamaha YZF-R1 หรือ Suzuki GSX-R1000 2017 เป็นต้น ซึ่งผู้บริโภคอย่างเราก็เข้าถึงเทคโนโลยี MotoGP ได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม และเทคโนโลยีพวกนี้แหละจะทำเราได้รับความปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย แต่.. คันเร่งไม่ได้มีไว้กดเสมอไป…ยกบ้างก็ได้
ขอให้เพื่อนๆชมการแข่งขัน MotoGP ให้สนุกมากยิ่งขึ้นนะครัช
ขอขอบคุณข้อมูลจาก motowish